bas-40 | sportsmania

ปรกติแล้วการที่ทีมใดทีมหนึ่งใน NBA ได้สิทธิคัดเลือกผู้เล่นจากมหาวิทยาลัยหรือ draft ทีมแรก ทีมนั้น ๆ จะไม่ยอมเสียสิทธิที่ว่านั้น ไปง่าย ๆ แต่นั้นไม่ใช้กับ บอสตัน เซลติคส์ ที่ยกสิทธิที่ว่านั้นให้ ฟิลาเดลเฟีย 76ers ที่อยู่อันดับ 3 เปิดโอกาสให้ 76ers มีโอกาสคว้า ตัว PG มาร์เคลเล ฟูลตซ์ เข้าสู่ทีมเป็นคนแรก ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก นี่ถือเป็นหนที่ 7 ลองย้อนกลับไปดูกันว่าก่อน หน้าทั้ง 6 ครั้งที่ผ่านมา หลังการแลกสิทธิกันแล้วบรรดา ผู้เล่นที่ถูกเลือกเข้ามาเป็นคนแรกจากการแลกสิทธิที่ว่านี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง

1950 : ชัค แชร์.........ในปี 1950 เซลติคส์ ที่จบซีซั่นด้วยสถิติ 22-46 เลือก C จาก Bowling Green ชัค แชร์ เข้ามาเป็นคนแรก จาก นั้นใน อีก 1 ปีถัดมา พวกเขาก็ยก แชร์ ไปให้ ฟอร์ต เวย์น พิสตันส์ เพื่อแลกกับ SG บิลล์ ชาร์มาน แชร์ส ได้ลงเล่นใน NBA ครั้งแรกเจอกับอดีตทีม เก่า ขณะที่ตลอดชีวิตการเล่น 9 ปีใน NBA ของทำเฉลี่ย 8.3 คะแนน 8.4 รีบาวด์ และพาทีม เซนต์หลุยส์ ฮอว์คส์ คว้าแชมป์ได้ 1 สมัย

ฝั่ง ชาร์มาน ถูกเลือกเข้าสู่ทีม ออล-สตาร์ 8 ครั้งและมีส่วนกับการพา เซลติคส์ คว้าแชมป์ 4 สมัย นอกเหนือไปจาก เขากับ บ็อบ คูซีย์ ยังได้รับ การยกย่องให้เป็นคู่หู backcourt ที่ยอดเยี่ยมสุดในประวัติศาสตร์ลีกด้วย และใช้แค่ประสบความสำเร็จในฐานะผู้เล่นเท่านั้น ชาร์มาน ยังประสบ ความสำเร็จ เมื่อหันมาทำหน้าที่ ‘โค้ช’ ด้วยหลังพา เลเกอร์ส คว้าแชมป์ในปี 1972 และอีก 5 ครั้งเมื่อเขยิบขึ้นรั้บตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหาร เจ้า ตัวถูกเลือกเข้าสู่ Hall of Fame ในฐานะผู้เล่นปี 1976 และอีกครั้งในปี 2004 ฐานะโค้ช

           1957 : ร็อด ฮันด์ลีย์........G จาก West Virginia ถูก ร็อคเชสเตอร์ โรยัลส์ เลือกเข้าสู่ทีมเป็นคนแรกในปี 1957 จากนั้นไม่กี่นาที ต่อมา ก็ถูก โรยัลส์ ยกไปให้ มินเนอาโปลิส เลเกอร์ส ที่ได้ผู้เล่นไป 7 คนในการแลกเปลี่ยน 3 ทีมรวมถึง ซินซินเนติ ที่ได้ ไคลด์ เลิฟเลตต์ติ กับจิม แพ็กสัน Sr.

           เลิฟเลตต์ติ ที่ถูกเลือกเข้าสู่ Hall of Fame หลังเลิกเล่นหลังทำเฉลี่ย 23.4 คะแนน 12.1 รีบาวด์ กับ 1 ปีที่เล่นให้ ซินซินเนติ เขาก็ถูกปล่อย ตัวไปอยู่กับ เซนต์หลุยส์ ฮอว์คส์ เพื่อแลกกับผู้เล่น 5 คนรวมถึงผู้เล่นที่ถูกเลือกเข้าสู่ ออล-สตาร์ 5 ครั้งอย่าง เวย์น แอมไบร์ ด้วย ส่วน แพ็กสัน พ่อ ของ จิม และจอห์น แพ็กสัน เลิกเล่นขณะอายุ 26 หลังเล่นให้กับ โรยัลส์ ได้แค่ปีเดียว ส่วน ฮันด์ลีย์ เขาเล่นอยู่ใน NBA 6 ปีถูกเลือกเข้าสู่เกม ออล- สตาร์ 2 หนสมัยอยู่กับ เลเกอร์ส ก่อนเจอปัญหาการบาดเจ็บเข่าเล่นทำให้ต้องเลิกเล่นไปขณะอายุ 28 จากนั้นก็ผันตนเองไปทำงานทีวีให้กับ นิว
ออร์ลีนส์ และยูท่าห์ แจ๊ซซ์

1980 : โจ บาร์รีย์ คาร์โรลล์ ........ ในปี 1980 เซลติคส์ จัดการยกสิทธิเลือกลำดับที่ 1 กับ 13 ไปให้กับ โกลเด้นสเตต วอร์ริ
เออร์ส เพื่อแลกกับ C โรเบิร์ต พารีช และสิทธิเลือกลำดับที่ 3 จาก โกลเด้นสเตต ที่เลือกเอาเจ้าของความสูง 7 ฟุตจาก เพอร์ดู คาร์โรลล์ เข้ามา เป็นคนแรกต่อด้วย C ริคกีย์ บราวน์ เข้ามาในลำดับที่ 13 ขณะที่ เซลติคส์ คว้า big man เควิน แม็คเฮล เข้ามาในลำดับที่ 3

7 ปีที่อยู่กับ วอร์ริเออร์ส คาร์โรลล์ ทำเฉลี่ย 20.4 คะแนน 8.3 รีบาวด์ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบผลงานที่ พารีช กับแม็คเฮล ทำให้ เซลติคส์ แล้วเทียบกันไม่ได้เลย 13 ปีที่ลงเล่นทั้งคู่ถูกเลือกเข้าสู่ ออล-สตาร์ต มาตลอดนอกเหนือจากพาทีมคว้าแชมป์ได้อีก 3 สมัยช่วงทศวรรษ 1980
แม็คเฮล กับพารีช ถูกคัดเลือกเข้าสู่ Hall of Fame ในปี 1999 และ 2003 ส่วน บราวน์ ทำเฉลี่ย 5.2 คะแนนต่อเกมใน 3 ซีซั่นที่อยู่กับ วอร์ริเออร์ส

1986 : แบรด ด็อคเกอร์ตีย์..... การเสียชีวิตของ เลน บาส ที่ถูกคาดหมายว่าจะถูกเลือกเป็นคนแรก ทำให้การเลือกผู้เล่น จาก มหาวิทยาลัยในปีนี้ เกิดความไม่แน่นอน ฟิลาเดลเฟีย ยกสิทธิเลือกลำดับ 1 ไปให้ คลีฟแลนด์ เพื่อแลกกับอดีต F Rutgers รอย ฮินสัน ที่ทำ เฉลี่ย 19.5 คะแนน 8.5 รีบาวด์ในปีสุดท้ายที่เล่นอยู่กับ คาวาเลียร์ส

ขณะที่ คลีฟแลนด์ เองเลือก C จาก UNC แบรด ด็อคเกอร์ตีย์ ที่ถูกเลือกเข้าสู่ ออล-สตาร์ 5 สมัย เข้ามาเป็นคนแรก 8 ปีที่อยู่กับ คาฟส์ เข า
ทำเฉลี่ย 19 คะแนน 9.5 รีบาวด์ก่อนเจอมรสุมชีวิตทำให้เลิกเล่นไปในเวลาต่อมา ส่วน ฮินสัน ลงเล่นไป 105 เกมใน 2 ปีกับ 76ers ก่อนถูกปล่อย ตัวไปให้ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์

1993 : คริส เวบเบอร์ส........ในวันคัดเลือกของปี 1993 วอร์ริเออร์ส สร้างความฮือฮาด้วยการยกสิทธิเลือกลำดับที่ 3 ในปีนั้น พร้อมสิทธิ เลือกในอนาคตอีก 3 รอบให้ เมจิก ที่เลือกเอา เพ็นนีย์ ฮาร์ดาเวย์ เข้ามา ขณะที่ วอร์รเออร์ส ซึ่งได้สิทธิเลือกทีมแรกก็ไปคว้าตัว คริส เว็บเบอร์ มา แทน

อย่างไรก็ตามหลังคว้ารางวัล รุกกี้ ยอดเยี่ยมในปีแรกกับ วอร์ริเออร์ส เว็บเบอร์ ก็ถูกทีมจับส่งไปให้ วอชิงตัน บูลเลตส์ เพื่อแลกกับ ทอม กูลิ ออตตา กับ 3 สิทธิเลือกรอบแรกที่พวกเขาเอา 2 ใน 3 สิทธิที่ว่าไปให้ เมจิก เพื่อแลกกับ วินซ์ คาร์เตอร์ ที่เมื่อได้ตัวเสร็จก็ไปแลกต่อเพื่อได้ตัว
แอนทอน จามิสัน เข้ามา

สำหรับ ฮาร์ดาเวย์ ถูกคัดเลือกเข้าสู่ทีม ออล-สตาร์ 4 หนตลอด 6 ปีที่อยู่กับ เมจิก หลังจับคู่กับ ชาคีล โอ’นีล พาทีมเข้ารอบชิง NBA ในปี 1995 นอกจากนั้นสิทธิเลือก 1 สิทธิที่ เมจิก ได้จาก เว็บเบอร์ พวกเขายังไปคว้าตัว ไมต์ มิลเลอร์ เจ้าของรางวัลรุกกี้ยอดเยี่ยมเข้ามาในปี 2000-01
ด้วย

2014 : แอนดรู วิคกิ้นส์.........แอนดรู วิคกิ้นส์ นักบาสจากมหาทิยาลัย แคนซัส คือ คนสุดท้ายของการแลกเปลี่ยนสิทธิเลือกทีม แรก หลัง คลีฟแลนด์ เลือกเขาเข้าสู่ทีมเป็นคนแรก ก็ยกเจ้าตัวพร้อม แอนโธนีย์ เบ็นเนตต์ ที่ถูกเลือกเข้ามาเป็นคนแรกเช่นกันให้ มินเนโซตา เพื่อ แลกกับ เควิน เลิฟ

การได้ เลิฟ เข้ามาทำให้ คาวาเลียร์ส สร้างตำนาน 3 ทหารเสือที่ประกอบไปด้วย เลิฟ,เลอบรอน เจมส์, และไครี เออร์วิ่งค์ ที่ช่วยกันพาทีมเข้า รอบชิง NBA 3 สมัยติดและ 1 ในนั้นกลับมาพร้อมแชมป์ในปี 2016 อย่างไรก็ตาม ในอีกด้าน ทิมเบอร์วูลฟส์ กลับไม่ได้กำไรมากนักกับการแลก เปลี่ยนในครั้งนี้ หลังคว้ารางวัลรุกกี้ยอดเยี่ยมในปี 2014-15 วินกิ้นส์ ที่ลงเล่นไป 245 จาก 246 เกมในฤดูกาลปรกติทำเฉลี่ย 23.4 คะแนนต่อเกม เท่านั้น