นับแต่ คริส พอล ย้ายมาอยู่กับ LA คลิปเปอร์ส ในปี 2011-12 ก่อเกิดตำนาน LA Big  3 ที่ประกอบไปด้วยตัวเขา เบลก                  กริฟฟิน และ C ดิอังเดร จอร์แดน 6 ปีเขาพาทีมเก็บชัยชนะได้ 313 นัดนั้นถือเป็นผลงานที่ดีสุดในประวัติศาสตร์ คลิป                      เปอร์ส เลยก็ว่าได้ ในอีกด้านตัวของ พอล เองก็สร้างหน้าประวัติศาสตร์ให้กับตนเองเช่นกัน
           

    ขณะตัวเลขสถิติ ผู้เล่น ดูโดดเด่นแต่เมื่อย้อนกลับไปดูผลงานของทีมกลับตรงกันข้าม คลิปเปอร์ส เก็บชัยชนะในเพลย์ ออฟ ได้แค่  3 หนในช่วงของ Big  3 และไม่เคยแม้ครั้งเดียวที่ผ่านรอบ เซมิไฟนอล ไปได้ ดังนั้นไม่ว่าผลงานใน ฤดูกาลปรกติ ของพวกเขาจะเลิศ  หรูเพียงไหนทุกอย่างจะถูกลืมไปในทันทีเมื่อเข้าสู่เพลย์ ออฟ
           

     ด้วยเหตุนี้จึงได้มีคนนำผลงานของ คลิปเปอร์ส กับการเล่นเพลย์ ออฟ ไปคิดคำนวนออกมาเป็นตัวเลขโดยเรียกสูตรที่ว่านี้คือ  playoff success points โดยจะให้คะแนนการเข้าถึงแต่ละรอบดังต่อไปนี้คือ แชมป์ 1,000,แพ้รอบชิง 500,แพ้รอบชิงแชมป์สาย 250 และ  ไล่ลงไปเรื่อย ๆ  ซึ่งนับแต่ปี 2012 เป็นต้นมา คลิปเปอร์ส กับผลงานในเพลย์ ออฟ พวกเขาทำได้แค่ 562.5 คะแนนเท่านั้นหรือน้อยถึง  ครึ่งกว่าเมื่อเทียบกับผลงานในฤดูกาลปรกติ
 

 

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

          

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

      ย้อนกลับไปในปี 1976 เมื่อ NBA ควบรวมกับ ABA ไม่มีทีมไหนที่ชนะอย่างน้อย 320 เกมในฤดูกาลปรกติกับการเล่นตลอด 6 ซีซั่น  นอกเหนือจากไม่มีทีมไหนอีกเช่นกันที่ทำคะแนนได้เท่ากับ คลิปเปอร์ส (2012-17) กับการเล่นเพลย์ ออฟ ช่วงเวลาเดียวกัน ที่ใกล้เคียง  สุดคือ ซาน อันโตนีโอ สเปอร์ส ที่ทำไว้ในปี 1990-95 หรือยุคของ เดวิส โรบินสัน นั้นเอง
           

    ใช้เพียงแค่นั้น Big 3 พอล,เบลก และดิอังเดร ต่างเป็นเจ้าของสถิติต่าง ๆ ของทีมถึง 17 อย่างด้วยกัน บวกกับ Box Plus/Minus  (BPM) (เอาเวลาของการลงเล่นมาคำนวนกับคะแนนที่ทำได้) จนเป็นที่มาของการถูกนำไปเปรียบเทียบกับเหล่าตำนานในอดีตอย่าง  ไมเคิล จอร์แดน ของ ชิคาโก บูลส์,ทิม ดันแคน-สเปอร์ส หรือ จอห์น สต๊อกตัน กับคาร์ล มาโลน ของ ยูท่าห์ แจ๊ซซ์ หรือยอดทีม  อย่าง ฟิลาเดลเฟีย 76ers ที่ทำไว้ในต้นทศวรรษ 1980 แต่ทีมที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ต่างประสบความสำเร็จอย่างน้อยก็เข้าถึงรอบชิง  ของ NBA แต่เมื่อย้อนกลับมาดู คลิปเปอร์ส กลับตรงกันข้าม จนเป็นที่มาของคำเปรียบเปรยที่ว่า คลิปเปอร์ส เป็นราชันที่ไร้บัลลังค์  ในเวลาต่อมา
           

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

​

​

​

​

​

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

​

 

 

     หลายคนกล่าวว่า เมื่อย้อนกลับไปดูผลงานของ คลิปเปอร์ส พวกเขาไม่ควรตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ อย่างไรก็ตามทุกคนยอมรับเมื่อ  ถึง จุด ๆ  จุดหนึ่งเมื่อไม่สามารถควานหาความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ Big 3 ก็ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันไปหาความท้าทายใหม่ต่อไป
 

     ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่ คลิปเปอร์ส ตัดสินใจส่ง พอล ไปให้ ฮูสตัน ร็อคเกตส์ เพื่อแลกกับผู้เล่นอีก 7 คนอาทิเช่น แพทริค บีเวอร์ลีย์,ลู วิลเลียมส์,แซม เดคเกอร์,มันเทรซ ฮาร์เรลล์,ไคล วิลต์เยร์,ดิอังเดร ลิคกิ้นส์,ดาร์รัน ฮิลลาร์ด และสิทธิ draft รอบแรกปี 2018 กับเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง