top of page


SPORTS MANIA

ความสำเร็จในฤดูกาลที่แล้วกับชัยชนะ 12 นัด ซึ่งถือว่ามากสุดนับแต่เริ่มต้นเข้าสู่ทศวรรษ 2000 ก่อนเดินหน้าเข้าสู่ เพลย์ ออฟ ยุติการรอคอยที่แสนยาวนาน 14 ปีเต็มของ‘สลัดตาเดียว’ โอ๊คแลนด์ เรดเดอร์ส เริ่มต้นขึ้นในฤดูกาล 2014 หลังพวกเขาเลือกหรือ ดราฟต์ 3 กำลังสำคัญอย่าง DE-คาห์ลิล แม็ค,QB-เดอเร็ค คารร์ และ G-กาบี แจ๊คสัน หลังฝันร้ายผ่านไป ฤดูกาลนี้ ‘สลัดตาเดียว’ พา ตัวเองก้าวขึ้นมาอีกหนึ่งระดับคือ การขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล กับแชมป์เก่า ‘นักรบกู้ชาติ’ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ .......ปัญหาคือ ภายนอก เรดเดอร์ส อาจดูสดใส แต่ภายในนั้นหยุ่งเหยิงไปหมด
เริ่มต้นยัง QB คารร์ กับสัญญารุกกี้ที่ทำให้เขารับเงินแค่ $1,152,519 ล้าน กำลังหมดลง เจ้าตัวปฏิเสธการเจรจาทุกอย่างจนกว่าเข้า สู่ training camp การยื้อเวลาของ คารร์ ไม่มีอะไรแค่ ต้องการเป็นผู้เล่นคนแรกของ NFL ที่รับค่าเหนื่อย $25 ล้านต่อปี ทุบสถิติ QB แอนดรู ลัค ของ ‘เกือกม้า’ โคลต์ส ที่เซ็นไว้ 5 ปีกับค่าเหนื่อย $122.97 ล้านหรือตกเฉลี่ย $24.594 ล้านต่อปี นอกเหนือเงิน guarantees หรือที่ได้แน่นอนจากการเซ็นสัญญาอีก $87 ล้านและ $47 ล้านจากโบนัส
ขณะทางด้าน แม็ค ผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ NFL ที่ถูกเลือกลงเล่นเกม โปรโบว์ล ทั้งในตำแหน่ง DE และ OLB ปีเดียวกัน 2015 จากนั้นปีที่แล้วก็คว้าตำแหน่ง ผู้เล่นทีมรับยอดเยี่ยมหรือ Defensive Player of the Year มาครองอีก ทำให้ เรดเดอร์ส ไม่มีทาง เลือกมากกับสัญญาฉบับใหม่ที่อาจสูงถึง $20 ล้านต่อปี ส่งให้ แม็ค กลายเป็นคนแรกอีกครั้งที่ไม่ใช้ผู้เล่นในตำ
แหน่ง QB แต่รับค่าเหนื่อยสูงขนาดนั้น
แต่รวม ๆ แล้ว แม็ค อาจรับค่าเหนื่อยสูงถึง $75 ล้านทุบสถิติ $70 ล้านที่ วอน มิลเลอร์ รับจาก ‘ม้าป่า’บรองโกส์ หลังเซ็นไว้ 6 ปี ตกเฉลี่ย $19,083,333 ล้านและทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ไม่ใช้ตำแหน่ง QB ที่มีรายได้สูงสุดด้วย
ส่วนทางด้าน แจ๊คสัน เรดเดอร์ส อาจต้องรีบจัดการให้เสร็จสิ้นก่อน แม็ค หลังปีก่อน ทีมโยกเขาจาก RG มาสู่ LG เพื่อเปิด ทางการคว้าตัว เคลเลชี โอเซเมเล มาเซ็นสัญญา 5 ปีพร้อมค่าเหนื่อย $58.5 ล้าน (เงิน guarantees $25.4 ล้าน) และทำให้เจ้าตัวกลาย เป็น G ที่ได้รับเงินค่าเหนื่อยสูงสุดของ NFL ไป แต่อีกด้านแม้สลับตำแหน่งแต่ แจ๊คสัน กลับยังทำผลงานได้ดี ซึ่งกรณี แจ๊คสัน สลัด ตาเดียว อาจต้องยอมจ่ายปีละ 9 ถึง 10 จาก เงิน guarantees ทั้งหมด $20 ล้าน ซึ่งนั้นก็จะทำให้ เรดเดอร์ส กลายเป็น 1 ใน 2 ทีมคู่กับ ‘ตูบแก้มย้อย’ บราวน์ส ที่จ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่นในตำแหน่ง G สูงถึง $8 ล้านต่อซีซั่น
ถ้า สลัดตาเดียว ทำตามที่กล่าวมาข้างต้นจริง พวกเขาจะกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ NFL ที่จ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่นใน 2 ตำแหน่งคือ QB 25 ล้านและไม่ใช้ QB สูงถึง $20 ล้าน แน่นอน เรดเดอร์ส ไม่ยอมพาตัวเองเข้าสู่วังวน salary cap หรือ เพดานเงินค่า ใช้จาย แน่เพราะ ถ้าเซ็นสัญญาทั้ง 3 คนข้างต้นตามที่ว่า นั้นหมายถึงว่า ทีมจะใช้จ่ายเงินเกินที่ salary cap กำหนดไว้ถึงกว่า $31 ล้าน ด้วยเหตุนี้ เรดเดอร์ส ไม่มีทางเลือกมากนอกจากจะใช้วิธีการ กระจายการจ่ายเงินออกสู่ทุกช่องทาง หรือการยืดเวลาในการจ่าย เงินออกไปให้นานสุดเท่าที่ทำได้
ยกตัวอย่าง ‘เหยี่ยวทะเล’ ซีแอตเติล ซีฮอว์คส์ ทำสัญญาฉบับใหม่กับ QB รัสเซลล์ วิลสัน ในปี 2015 พวกเขาจ่ายให้ วิลสัน $ 20.7 ล้านในปีแรก แต่เงินโบนัสจำนวน $11 จากทั้งหมด $31 ล้านจะไม่จ่ายจนกว่าถึงเดือน เม.ย. ซึ่งนั้นเป็นแค่ 1 ในหลาย ๆ ตัวอย่าง ที่ เรดเดอร์ส สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อนได้
และเมื่อเรื่อง เงิน ๆ ทอง ๆ กำลังเข้ามาเป็นปัญหาใหญ่ สลัดตาเดียว คงต้องเพิ่มความเข้มข้นกับความตั้งใจเดิม คือ การใช้ผู้ เล่นในท้องถิ่นเป็นหลักให้มากขึ้น จากเดิมเมื่อปีที่แล้ว พวกเขาใช้ผู้เล่นในท้องถิ่น 41 จาก 62 คนหรือ 66.1% และมี 10 จาก 22 คนที่ ได้ลงเล่นในฐานะตัวตริง มาฤดูกาลนี้ เรดเดอร์ส อาจต้องเพิ่มผู้เล่นท้องถิ่นเข้าไปให้มากขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระเรื่องเงินที่ว่า
หลังมีการคาดการณ์ว่าในฤดูกาล 2018 มีความเป็นไปได้ สลัดตาเดียว อาจใช้เงินสูงถึง $ 127.5 ล้านจากทั้งหมดที่ NFL คาดว่าให้ ใช้แค่ $180 ล้าน ซึ่งเท่ากับว่าจะเหลือแค่อีก $50 ล้านก็เต็ม cap ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งจำนวน $127.5 ล้านที่ว่ายังไม่ได้นับรวมค่าเหนื่อย ของทั้ง 3 คนที่ว่าเข้าไปด้วย
ถึงเวลานี้ ‘สลัดตาเดียว’ คงได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างแล้วว่า การไล่ล่าหาความสำเร็จใช้แค่การได้ผู้เล่นเก่ง ๆ มาเสริมทัพเท่านั้น แต่ยังต้องเรียนรู้การบริหารควบคู่ไปด้วยเหมือนกับแชมป์ทีมล่าสุด ‘นักรบกู้ชาติ’ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ทำไว้กับตลอด 10 กว่าปีที่ ผ่านมา เราได้ยินชื่อนี้ วนเวียนอยู่กับการคว้าแชมป์มาตลอด



(จากซ้ายไปขวา) DE-คาห์ลิล แม็ค,QB-เดอเร็ค คารร์ และ G-กาบี แจ๊คสัน

bottom of page